ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับอนุมัติจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หรือ ศบค. ปลดล็อก 14 ชนิดกีฬาอาชีพ ให้กลับมาจัดการแข่งขันได้ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เเล้วนั้น
ล่าสุด ''บิ๊กก้อง'' ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า หลังจากได้มีการจัดสัมมนา และทดสอบระบบในการจัดงานวิ่งเทรล และวิ่งถนน ที่จังหวัดราชบุรี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เราได้ข้อมูลและมองเห็นจุดที่เราจะต้องกลับมาแก้ไขให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ก่อนจะออกเป็นคู่มือจัดการแข่งขันวิ่ง เพื่อให้เหล่าผู้จัดงานวิ่งนำไปยึดปฏิบัติกันในการจัดการแข่งขันวิ่ง หลัง ศบค. ประกาศปลดล็อกให้กลับมาจัดการแข่งขันได้ ซึ่ง กกท. ได้ยื่นเรื่องให้ ศบค. พิจารณาแล้ว คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ น่าจะได้รับคำตอบ
''ในคู่มือจัดการแข่งขันวิ่ง มี 16 ข้อ ที่จะให้นักวิ่งต้องปฏิบัติตาม มีข้อที่กำหนดให้ผู้เข้าร่วมวิ่งทุกคนควรจะต้องมีการตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบังคับ เพียงแต่ถ้าทำได้ก็จะเป็นการดี เนื่องจากการวิ่งไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ไม่ได้มีการปะทะเหมือน 14 ชนิดกีฬา ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นกีฬาประเภททีม เพียงแต่นักวิ่งต้องดูแลตัวเอง ไม่ไปอยู่ในจุดเสี่ยงก่อนมาร่วมวิ่งเท่านั้น อีกทั้งผู้จัดเองก็จะมีการควบคุมอย่างเป็นระบบ ครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนของการรับสมัคร ไปจนถึงวันแข่งขัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องบังคับให้ตรวจโควิด-19 ทุกครั้งก่อนเข้าร่วมวิ่ง''
ผู้ว่าการกกท. กล่าวต่อไปว่า นอกจากวิ่งแล้ว การกีฬาแห่งประเทศไทย ยังยื่นให้ ศบค. พิจารณาปลดล็อกอีก 48 ชนิดกีฬา ซึ่งเป็นกลุ่มกีฬาเป็นเลิศ ASIA369 ให้สามารถกลับมาจัดการแข่งขันได้ตามปกติ ซึ่งได้ส่งเรื่องไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน เหลือเพียงการตอบกลับจาก ศบค. เท่านั้น คาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นภายใน 1-2 สัปดาห์เช่นเดียวกัน
การแข่งขันมวยไทย ''ศึกกาแล็คซี่ไฟต์+พี.เค.แสนชัย'' เมื่อวันอังคาร 11 ก.พ. 63 เวทีลุมพินี รามอินทรา จัดโดย โปรโมเตอร์ ''เสี่ยแขก'' สมชาย เทศรุ่งเรือง คู่เอกนำรายการ พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัย (แดง) ล้างตา เพชรสมาน ส.สมานการ์เม้นท์ (น้ำเงิน) มีเข็มขัดแชมป์รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต เวทีลุมพินี เป็นเดิมพัน ชกพิกัด 120/121 ปอนด์ มุมแดงต่อน้ำหนัก เคยชนะมา หมดยกแรก พระจันทร์ฉายต่อ 3-2 ยกสอง ปักหลักกลางเวที ชิงกันวางแข้งสุดเร้าใจ จันทร์ฉายเตะขวาเร็วกว่า เพชรสมานคิดช้าทำช้า เกาะในก็ตีไม่ได้ ราคาไหลต่อ หมดยก พระจันทร์ฉายต่อไป 3-1 เลย
ยกสาม เพชรสมานเดินเร็ว หวดแข้งซ้าย แต่ช้ากว่าแข้งขวาพระจันทร์ฉาย ชิงไหวชิงพริบเห็นชัดเลย จันทร์ฉายเร็วกว่าเยอะ เก็บอาวุธได้หมด แล้วโต้แข้งขวาคืนลำหนักๆ เพชรสมานเตะติดบังหมด ราคาไหลต่อขาดเหลือเชื่อ หมดยกนี้ พระจันทร์ฉายต่อถึง 20-1
ยกสี่ เพชรสมานไล่เตะต่อยหวังพลิกเกม แต่ไล่ไม่จน พระจันทร์ฉายหมุนออกซ้ายทีขวาที ดักเตะเหนือชั้นจนเพชรสมานหงุดหงิด มีปะทะคารมกันบนเวทีด้วย จนกรรมการต้องเตือน แต่ราคาไหลต่อไปสุดกู่แล้ว หมดยก พระจันทร์ฉายต่อ 150-1 ยกสุดท้าย กองเชียร์เพชรสมานยังเฮกันลั่น แต่บนล็อกเซียนเลิกเชียร์แล้ว พระจันทร์ฉายโชว์ลีลาโยกหลบหมัดเหนือชั้น ไม่เสียทีไปต่อยมวยทีมชาติมาเกือบสองปี เพชรสมานไล่ต่อยไล่เตะ โดนบ้างไม่โดนบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะจั่วลม ท่านรองสารภาพกันหมดแล้ว ครบยก ''พระจันทร์ฉาย'' ชนะคะแนนขาดลอยยิ่งกว่าเก่า คะแนนเอกฉันท์ 49-47 คว้าแชมป์รุ่น 122 ปอนด์เวทีลุมพินี ไปครองสุดสวย
ส่วนผลคู่อื่นๆ รองคู่เอก ลุ้นกันสนุกถึงชิงดำ รณชัย ต.รามอินทรา แพ้คะแนน ชายหล้า ภ.หลักบุญ พลิกไปพลิกมาตื่นเต้น, เมืองลพ ส.สละชีพ ชนะคะแนน เพชรสายฟ้า เอ็กซินดีคอนยิม, สิงห์นคร สิงห์มาวิน แพ้ทีเคโอ โฟกัส รักชาติ ยก 4, โชคกุญชร ก.สกุลเชื้อ ชนะคะแนน เอเลี่ยน เพชรเกษม สนุก, เอซากิ พี.เค.แสนชัย (ญี่ปุ่น) ชนะคะแนน ขาวผ่อง พ.เพชรมณี, ออแกเนียน พี.เค.แสนชัย (สหรัฐอเมริกา) ชนะคะแนน ยอดขุนพล ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง