จากกรณีที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ออกมาประกาศให้เวทีมวยไทยสามารถเดินหน้าจัดการแข่งขันได้ในเดือนกรกฎาคมนี้นั้น ล่าสุด ''ดร.ก้อง'' ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า เรื่องเวทีมวยต่างๆ ที่จะกลับมาจัดการแข่งขันในระบบปิด ซึ่งจะเริ่มในเดือนกรกฎาคมนั้น ไม่มีปัญหา
ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทยยังเผยอีกว่า การกลับมาจัดเเข่งขันนั้น ทุกสนามต้องปฏิบัติตามมาตรการรัฐอย่างเคร่งคัด ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดคนเข้าสนามไม่เกิน 50 คน การกักตัวนักมวย ก่อนและหลังขึ้นเวทีชก 14 วัน เป็นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าจะปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ที่อาจกลับมาระบาดอีกได้
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องคู่มือในการจัดการแข่งขันนั้น ถึงขณะนี้ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และผ่านตาคนในวงการกีฬามวยไปแล้วมากพอสมควร ขั้นตอนต่อไป คือการส่งมอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาเห็นชอบเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถแจกจ่ายไปทุกสนามได้ภายใน 1-2 วันนี้
''มาตรการที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยพยายามทำนั้น ก็เพื่อสร้างความมั่นใจ ASIA369 ไม่เพียงคนในวงการมวยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลภายนอกด้วย ให้แน่ใจว่าสนามมวยจะไม่ใช่แหล่งแพร่เชื้อร้าย''
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เป็นการแข่งขันวันที่สี่ ที่บริเวณดอยม่อนกระถาง มีชิงชัย 2 เหรียญทองจากประเภทครอสคันทรี รุ่นประชาชนหญิง และประชาชนชาย ซึ่งอีเวนต์นี้จะเป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมควอลิฟายโอลิมปิก 2020 ''โตเกียวเกมส์''
เริ่มรายการแรกเป็นการแข่งขันครอสคันทรี ประชาชนหญิง ปั่นกัน 5 รอบ รอบละ 4.8 กม. รวมระยะทาง 24 กม. ทีมไทยส่ง 3 นักปั่นสาวลงชิงชัย ได้แก่ ''พลอย'' วรินทร เพ็ชรประพันธ์, ''ไก่'' สิบโทหญิง ศุภักษร นันตะนะ และ ''แอน'' สโรชา กมลคร งานนี้นักปั่นเจ้าภาพเจอศึกหนักทั้งจีนและญี่ปุ่นที่ใช้สนามชิงแชมป์เอเชียในการคัดตัวนักกีฬาที่จะลงแข่งขันโอลิมปิก 2020 ในขณะที่ 3 เสือสาวไทยนั้นสตาร์ตอยู่ข้างหลังเนื่องจากอันดับโลกไม่ดีเท่าจีนและญี่ปุ่น
ออกตัวไป ''ไก่'' รั้งอยู่ที่ 8-9 แต่เมื่อเข้าแทร็กผ่านไปรอบแรก ศุภักษรที่เร่งเต็มที่จนไล่ขึ้นมาเป็นที่ 4 ก่อนที่จะตามหลังอิหร่านอยู่ที่รั้งอันดับ 3 อยู่ประมาณ 30 วินาที ส่งผลให้ศุภักษรพยายามเร่งความเร็วมากขึ้นหวังจะไล่ขึ้นแซงอิหร่าน แต่ดูเหมือนว่าศุภักษรที่เร่งมากเกินไปจนทำให้ช็อตไปจนต้องลงเข็นถึง 2 ครั้ง ในรขณะที่นักปั่นสาวจากแดนปลาดิบ มิโอะ มือ 80 ของโลกก็ทำเวลาไล่เข้ามา ศุภักษรจึงเร่งความเร็วในรอบสุดท้ายรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ก่อนจะจบลงด้วยอันดับ 4 ด้วยเวลา 1.46.42 ชม. ส่วนแชมป์ตกเป็นของ เบียนวา เหยา นักกีฬาสาวจากจีนโชว์ความแข็งแกร่งคว้าแชมป์เอเชียไปครอง ด้วยวลา 1.37.38 ชั่วโมง ทิ้งห่างอันดับ 2 ปิง เหยา เพื่อนร่วมชาติ ที่ทำเวลา 1.41.54 ชั่วโมง ถึง 4.16 นาที, ที่ 3 ฟารานัค ปาร์ตัวซาร์ จากอิหร่าน เวลา 1.43.19 ชั่วโมง และ ''พลอย-วรินทร'' ได้ที่ 9 เวลา 1.51.38 ชั่วโมง
ด้านการแข่งขันครอสคันทรีชาย ระยะทาง 6 รอบ ไทยส่ง 4 นักปั่นลงชิงชัยนำโดย ''ตูม'' พีระพล ชาวเชียงขวาง 2 เหรียญทองจักรยานถนนซีเกมส์ครั้งที่ 30, กีรติ สุขประสาท เหรียญทองแดงซีเกมส์ 30 และเพิ่งพาทีมไทยคว้าเหรียญเงินทีมผลัดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา, ปาริวัฒน์ ตั๋นเหล็ก และ อดิศักดิ์ ไตรรังคะ ซึ่งในรุ่นนี้นักปั่นไทยก็ต้องเจอกับแชมป์เก่าอย่าง โคเฮ ยามาโมโตะ ที่พาทีมญี่ปุ่นคว้าทีมผลัดมาแล้วจากการแข่งขันวันแรก (1 ก.พ.) และเมื่อออกสตาร์ตในรอบแรกสอง นักปั่นแดนปลาดิบ โคเฮ และ ซาริยะ ฮิราโนะ ตีคู่กันออกไป ''มะตูม'' นั้นออกตัวรั้งอยู่ที่ 5 สองรอบแรกยังรักษาตำแหน่งไม่ให้หล่นไปกว่านี้ ก่อนจะมาเร่งสปีดในช่วงท้ายจนขึ้นมารั้งที่ 3
โดยทำเวลาตามหลังที่ 2 อย่างซาริยะอยู่ประมาณ 1 นาทีกว่า และตามหลังผู้นำโคเฮอยู่กว่า 3 นาที ในรอบสุดท้ายพีระพลปั่นรักษาความเร็วของตัวเองเพื่อรักษาตำแหน่งที่ 3 เอาไว้เพราะการเร่งทำความเร็วแซงที่ 1 อย่างโคเฮนั้นเป็นไปได้ยาก และมีโอกาสหมดแรงได้ง่ายๆ หากใช้ความเร็วเกินขีดความสามารถของตัวเอง จึงปั่นรักษาความเร็วเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 3 คว้าเหรียญทองแดงด้วยเวลา 1.44.53 ชม. และแชมป์ไม่พลิกตกเป็นของโคเฮ เวลา 1.41.37 ชม. ที่ 2 ซาริยะ 1.42.47 ชม.