ไทเกอร์ วู้ดส์ โปรกอล์ฟชายคนดัง ทำสกอร์ได้ 1 อันเดอร์พาร์ ในการแข่งขันรอบแรก ศึกเดอะ เมโมเรียล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทำให้เขาได้อันดับ 18 ร่วม
วู้ดส์ ออกตัวได้ร้อนแรงด้วยการได้ 2 เบอร์ดี้ในหลุม 1 กับ 3 แต่พลาดเสียโบกี้ที่หลุม 6 กับ 8 ก่อนที่จะได้เบอร์ดี้ในหลุม 15 แต่ก็เสียโบกี้ที่หลุม 16 ต่อทันที ยังดีที่มาเก็บเบอร์ดี้ได้ในหลุมสุดท้าย โดยโปรชื่อดังคนอื่นที่มีสกอร์เท่าเขามีอย่างเช่น วีเจย์ ซิงห์ และ พอล เคซี่ย์ เป็นต้น
สำหรับผู้นำในตอนนี้คือ โทนี่ ฟิเนา โปรชาวอเมริกันที่ทำได้ 6 อันเดอร์พาร์ ส่วน "โปรแจ๊ซซ์" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ก้านเหล็กชาวไทยเพียงคนเดียวในรายการนี้ ทำไป 7 โอเวอร์พาร์ จนอยู่ที่ 120 ร่วม
สรุปผลการแข่งขันกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ เดอะ เมโมเรียล ทัวร์นาเมนต์ เพรเซนเต็ด บาย เนชั่นไวด์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 288.3 ล้านบาท) ที่สนาม มัวร์ฟิลด์ วิลเลจ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,456 หลา พาร์ 72 ในเมืองดับลิน รัฐโอไฮโอ้ ประเทสสหรัฐอเมริกา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
1. (-6) - โทนี่ ฟิเนา
2. (-5) - ไรอัน พัลเมอร์
3. (-4) - เบรนแดน สตีล, แกรี่ วู้ดแลนด์
5. (-3) - ชาร์ลส์ ฮาว เดอะ เธิร์ด, ลูคัส โกลเวอร์, ฆอน ราห์ม (สเปน)
อันดับนักกอล์ฟคนอื่นๆ ที่น่าสนใจ ASIA369
8. (-2) - จอร์แดน สปีธ, รอรี่ แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ)
18. (-1) - ไทเกอร์ วู้ดส์, พอล เคซี่ย์ (อังกฤษ), วีเจย์ ซิงห์ (ฟิจิ)
25. (E) - เออร์นี่ เอลส์ (แอฟริกาใต้), เซร์คิโอ การ์เซีย (สเปน), ฟิล มิคเคลสัน, บรู๊คส์ โคปก้า, จิม ฟิวริค
42. (+1) - เจสัน เดย์ (ออสเตรเลีย), จัสติน โรส (อังกฤษ)
95. (+4) - เอียน โพลเตอร์ (อังกฤษ)
115. (+6) - บั๊บบ้า วัตสัน
120. (+7) - อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (ไทย), แกรม แม็คดาวล์ (ไอร์แลนด์เหนือ)
127. (+10) - ริคกี้ ฟาวเลอร์
หมายเหตุ : นักกอล์ฟที่ไม่มีวงเล็บต่อท้ายคือนักกอล์ฟจากสหรัฐฯ
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในครั้งนี้เราได้มีโอกาสได้พบกันระหว่าง ดาโต๊ะ พอล ชัวร์ ประธานสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสโลก และท่านรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายบริหาร นายวิษณุ ไล่ชะพิษ ซึ่งในการหารือรอบนี้ ได้มีการพูดคุยเรื่องการสัมมนาการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามในกีฬา โดยจะมีกีฬาเพาะกายเป็นกีฬานำร่องเป็นตัวหลัก ซึ่งจะช่วยให้ความรู้ จะมีการเชิญวิทยากรผู้ที่เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ และวิทยากรด้านแพทย์ของประเทศไทยเข้ามาร่วมจัดการสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการละเมิดการใช้สารต้องห้าม
''ประเด็นเรื่องสารกระตุ้น ถือเป็นประเด็นสำคัญที่มีการพูดถึงอย่างมากในวงการกีฬาประเทศไทย ทำให้การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย รวมถึงสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสโลก มาเป็นภาคีร่วมในครั้งนี้ ในรายการนี้จะดำเนินการช่วงกรกฎาคมนี้ ก่อนจะมีการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้บทบาทของการต่อต้านสารต้องห้ามของประเทศไทย ได้เห็นความสำคัญการตระหนักรู้ ที่สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเป็นการยืนยันว่า ประเทศไทยเราไม่ได้ให้การสนับสนุนการใช้สารต้องห้าม และในครั้งนี้เราได้เตรียมเชิญผู้แทนของไอโอซี, โอซีเอ และวาด้า มาร่วมสังเกตการณ์การสัมมนาในครั้งนี้ด้วย น่าจะมีแขกจากต่างประเทศรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬามาร่วมไม่ต่ำกว่า 200 คน''
ขณะที่ นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายบริหาร กล่าวว่า ''การกีฬาแห่งประเทศไทย กับสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เราได้มีการบูรณาการร่วมกันตลอดมาอยู่แล้ว และกีฬาเพาะกายนั้นผลงานดี และจากการประเมินการดำเนินงานของแต่ละสมาคมของการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาเพาะกายฯ ก็อยู่ 1-4 โดยในครั้งนี้เราได้มาพูดคุยกันในเรื่องของการสัมมนาเรื่องของการต่อต้านการใช้สารกระตุ้น ว่าจะทำอย่างไรให้สังคมกีฬา วาด้า, ไอโอซี สังคมกีฬาของโลกได้เห็นว่า ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงร่วมกับกีฬาที่มีกลุ่มเสี่ยง เช่น เพาะกาย และยกน้ำหนัก จัดให้มีการสัมมนาการระดับนานาชาติ และเชิญวิทยากรมาพูด ให้นักกีฬาได้ตระหนักว่าไม่ใช่แค่ผลแพ้ชนะอย่างเดียว แต่การใช้สารต้องห้ามมีผลต่อร่างการและสุขภาพ พร้อมจะเชิญสมาคมที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด มาร่วมและพูดคุยถึงอาหารที่สามารถทดแทนได้''