27 Jun

อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักขับเอฟวันขวัญใจชาวไทย ของทีมเร้ดบูลล์ เรซซิ่ง ฮอนด้า บาคาร่าออนไลน์ ออกมาให้ความเห็นถึงระบบการทำงานใหม่ของต้นสังกัดภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยไวรัสโควิด-19 หลังจากผ่านการวอร์มอัพที่สนามแข่งซิลเวอร์สโตน ในอังกฤษ และทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

      นักขับชาวไทยวัย 23 ปี ได้ใช้รถแข่งรุ่นใหม่  RB16 ในการทดสอบสนามโดยวิ่งไปกว่า 100 กิโลเมตรภายใต้อากาศที่ร้อนพอสมควร การวอร์มอัพดังกล่าวถือเป็นการทดสอบระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ภาคสนามหรือ Pit Crews ภายใต้เครื่องป้องกันโควิด-19 ก่อนเดินทางไปแข่งขันเรซเปิดฤดูกาล 2020 ที่ประเทศออสเตรียระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2563 โดยในวันแข่งขันทุกทีมจะไม่สามารถเดินไปมาหรือพูดคุยติดต่อระหว่างพิททีมอื่น ๆ ได้ ส่วนภายในพิทของตังเองก็ต้องมีการสวมใส่เครื่องป้องกัน รวมทั้งเว้นระยะห่างตามสมควรอีกด้วย

    โชคดีที่ก่อนหน้านี้ผมได้มีการพูดคุยกับทีมงานในพิทเป็นประจำมาโดยตลอด ซึ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงกับครั้งล่าสุด ที่เราได้ทำงานร่วมกันที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่เราจะกลับมาทำความเข้าใจซ้ำกันอีกครั้ง  ผมแฮปปี้กับวันนี้มาก มันยอดเยี่ยมจริงๆ ที่ได้กลับมาพบกับทุกคนในทีมอีกครั้ง เพราะผมไม่ได้เจอกับพวกเขาในสถานการณ์ปกติมาตั้งแต่ที่ เมลเบิร์น หลังถูกยกเลิกเรซไป แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ทำให้ง่ายที่จะทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ

    ขณะเดียวกัน ทีมงานได้ทดสอบระบบการทำงานแบบ “นิว นอร์มอล” ภายใต้มาตรการความปลอดภัยจาก โควิด-19 ซึ่งจะต้องเริ่มใช้ระบบนี้ตั้งแต่การแข่งขันสนามแรกที่ ออสเตรีย ดยทีมงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย (Mask) และ PPE ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในหน้าที่ แน่นอนว่ามันดีสำหรับทุกคนด้วย ในการเริ่มต้นระบบการทำงานแบบ นิว นอร์มอล ภายใต้การระบาดของ โควิด-19 มันอาจทำให้เราไม่สะดวกบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าโอเค เป็นโอกาสที่ดีที่ได้กลับมาสัมผัสทุกอย่างอีกครั้งกับอารมณ์ของ เรซซิ่ง

    อัลบอน กล่าวต่ออกีว่า "เป็นเรื่องดีที่ทุกคนมีความเข้าใจในรูปแบบการทำงานใหม่ภายใต้มาตรการโควิด-19 โปรโตคอล ที่ทางสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ ASIA369 หรือ FIA หลังจากที่ผมได้สัมผัสมา ถือว่าเป็นอะไรที่ราบรื่นไร้ปัญหาใด ๆ โดยภาพรวมผมมองว่าการอุ่นเครื่องในครั้งนี้ ได้ทำให้หลายสิ่งเริ่มกลับเข้าสู่โหมดปกติกันอีกครั้งก่อนเจอของจริงที่ เร้ดบูลล์ริง 

ชาติซ้ายจับมือศักดิ์ชายเคลียร์ปัญหาร่วมทำMOUหนุนมวยไทยสู่อลป.

ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา บรรลุความสำเร็จอย่างงดงาม ตามเจตนารมณ์ในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียว โดยสามารถดึงชาติซ้ายจับกับศักดิ์ชาย ทำ MOU ร่วมกันผลักดันมวยไทยสู่ประชาคมโลกและโอลิมปิก ขณะเดียวกัน กกท.ก็เห็นด้วยที่จะปรับปรุงแก้ไขแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนมวยไทยสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 โดยให้นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพเข้าไปมีบทบาทในฐานะกรรมการส่งเสริมแผนงานด้วย 

     ในการประชุมคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ที่ห้องประชุม 408 อาคารรัฐสภา โดย ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา เป็นประธาน เมื่อวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 นั้น ปรากฏว่า ผู้เกี่ยวข้องกับกีฬามวยไทยทุกองค์กร และทุกฝ่าย ได้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมหน้า ในโอกาสนี้ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ได้ชี้แจงถึงกรณีที่ IFMA มีจดหมายถึงประเทศสมาชิกหลายประเทศ เพื่อให้ควบคุมดูแลเกี่ยวกับกรณีที่มีคณะบุคคลในประเทศนั้น พยายามดำเนินการจัดตั้งสมาคมหรือสหพันธ์มวยไทยแห่งชาติขึ้นมา ซ้ำซ้อนกับองค์กรมวยไทยที่เป็นสมาชิก IFMA ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นและไม่สามารถได้รับการรับรองจาก IFMA หรือ IOC ได้ เพราะหนึ่งประเทศ จะมีเพียงหนึ่งสหพันธ์หรือหนึ่งสมาคมเท่านั้น ที่เป็นสมาชิกของ IFMA ได้ ซึ่งในหนังสือดังกล่าว ได้พูดถึงข้อบังคับ IFMA ที่ IOC จดทะเบียนรับรองแล้ว โดยระบุว่ามวยไทยหมายถึง มวยไทยโบราณ มวยทะเล หรือมวย หรือกิจกรรมการแข่งขันที่มีลักษณะรูปแบบเหมือนมวยไทย ซึ่งข้อความดังกล่าวถูกองค์กรกีฬามวยไทยและคณะบุคคลในประเทศไทยคัดค้านและโจมตีว่า IFMA มีเป้าหมายที่จะยึดมวยไทยเป็นของตัวเอง ซึ่งดร.ศักดิ์ชายกล่าวว่า เมื่อตรวจสอบกันอย่างละเอียดแล้ว ทุกถ้อยคำไม่มีประโยคใดที่หมายถึงการยึดครองมวยไทยแต่อย่างใด ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความคลาดเคลื่อนในการแปลความหมาย  

     ในขณะเดี่ยวกัน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุนคำชี้แจงของดร.ศักดิ์ชาย โดยแจ้งต่อที่ประชุมว่า ได้ตรวจสอบข้อความภาษาอังกฤษแล้วเป็นไปตามที่ดร.ศักดิ์ชายชี้แจง  


     สำหรับ Mr. Stephan Fox เลขาธิการ IFMA ได้ยืนยันเจตนารมณ์ในการเสนอข้อบังคับเข้าสู่การรับรอง IOC ว่าได้คำนึงถึงความเป้ามาและรากเหง้าของมวยไทยเป็นสำคัญ นอกจากนั้นวัฒนธรรมประเพณีเกี่ยวกับมวยไทย ที่กลายเป็นมรดกอันล้ำค่าของมวยไทยในขณะนี้ ก็เป็นสิ่งที่ IFMA จะต้องให้ความเคารพ จึงเสนอให้ IOC รับรองอันจะนำมาซึ่งเกียรติภูมิของประเทศไทยโดยตรง  

     ส่วนประเด็นที่สมาคมกีฬามวยอาชีพได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการแต่งตั้งขณะกรรมส่งเสริมยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนมวยไทยสู่โอลิมปิกส์ 2024 นั้น สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ โดย ดร.ก้องศักด แถลงต่อที่ประชุมว่ายินดีให้ผู้แทนหรือนายกสามาคมกีฬามวยอาชีพเข้ามาเป็นกรรมการด้วย

สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ IFMA ว่ามีแผนที่จะยึกมวยไทยเป็นของตัวเองนั้น ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานที่ประชุมได้สรุปว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้ขึ้นทะเบียนมวยไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาศิลปวัฒนธรรมของชาติไว้ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งหมายความว่า ไม่มีใครสามารถมาเป็นเจ้าของมวยไทยได้นอกจากประเทศไทย

    สรุปผลการประชุมก็คือ ทั้งฝ่ายสมาคมกีฬามวยอาชีพและมวยไทยสมัครเล่น สามารถทำความเข้าใจและเป็นมิตรกันได้ และพร้อมที่จะทำ MOU ร่วมกัน เพื่อผลักดันมวยไทยสู่ประชาคมโลกและโอลิมปิกเกมส์ 

     สำหรับสาระสำคัญใน MOU หรือบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ประกอบด้วย

    1. เพื่อร่วมมือกันกำหนดนโยบายในการพัฒนาและป้องกันอันตรายต่อเด็กและเยาวชน     

    2. เพื่อร่วมมือกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายในการป้องกันเกี่ยวกับสุขภาพและสวัสดิภาพของนักกีฬามวย โดยการยึดมั่นในการตรวจเลือด และสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสวัสดิภาพ  

    3. เพื่อร่วมมือกันกำหนดยุทธศาสตร์การส่งเสริมอาชีพของนักกีฬามวยไทยในช่วงการชกมวยและภายหลังการเลิกชกมวย 

    4. เพื่อร่วมมือกันในการให้ความรู้เรื่องการป้องกันการใช้สารต้องห้ามในช่วงก่อนและขณะการแข่งขัน ที่ดำเนินการภายใต้สหพันธ์กีฬานานาชาติของกีฬามวยไทยที่เป็นผู้ได้รับอำนาจเต็มจาก WADA  

    5. เพื่อร่วมมือกันในการป้องกัน ส่งเสริม วัฒนธรรม และประเพณี อันเป็นรากฐานสำคัญของมวยไทยไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบของการแสดงหรือการแข่งขัน โดยเฉพาะในเรื่องดนตรี ปี่ มวย และการไหว้ครู 

    6. ให้ความร่วมมือกับองค์กรกีฬานานาชาติที่ได้รับการรับรองโดย IOC และ OCA เพื่อแสดงให้เกิดความมั่นใจต่อการจัดการแข่งขันมวยไทยในรายการที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลให้การรับรอง    

    7. เพื่อร่วมมือกันในการส่งเสริมขบวนการป้องกันการใช้สารต้องห้ามในการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศไทย
อนึ่ง ในการประชุม United Thought to Muaythai Conference ซึ่งหมายถึงการรวมพลังเป็นหนึ่งเพื่อมวยไทยสู่ประชาคมโลกและโอลิมปิก ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 นั้น ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ได้ให้เกียรติไปเป็นประธานและกล่าวเปิดการประชุมด้วย โดยในการประชุมดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมรับฟังมากกว่า 150 คน สำหรับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมให้ข้อมูลในการประชุมประกอบด้วย ผู้แทนสหประชาชาติ (UNESCO) ผู้แทน IOC และผู้แทน IFMA

    นอกจากนั้นก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าเสือ ''พระมหากษัตริย์นักมวย'' เนื่องในวันมวยไทย (Muaythai Day) ด้วย ในการนี้ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้เกียรติโปรยดอกไม้สักการะก่อนจะปิดพิธีบวงสรวง


Comments
* The email will not be published on the website.
I BUILT MY SITE FOR FREE USING