6 ลูกเด้งเด็กระเบิด ของดีปี 2020

เรื่องของการพัฒนาผู้เล่นเยาวชนถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกๆ วงการกีฬาของทุกๆ ประเทศทั่วโลกจำต้องปฏิบัติวางรากฐานเอาไว้ เพราะแน่นอนว่านักกีฬาทีมชาติของชาตินั้นๆ เมื่อพวกเขาเติบโตออกดอกออกผลมาเป็นกำลังหลักของประเทศแล้ว ก็ต้องมีวันหนึ่งที่พวกเขาจะหมดอายุไขผันเปลี่ยนเลิกเล่นไปตามกาลเวลา ดังนั้นก็ต้องมีกลุ่มเยาวชน คาสิโน ที่ตระเตรียมเอาไว้หมุนเวียนขึ้นมาทดแทนเรื่อยๆ จากรุ่นสู่รุ่น

  สำหรับวงการกีฬาเทเบิลเทนนิสของประเทศไทยนั้นในช่วงหลังมานี้ก็ได้เริ่มมีการทำโครงการพัฒนานักกีฬาเยาวชนทีมชาติที่ดูจริงจังซีเรียสและต่อเนื่องอย่างมีมาตรฐานมากขึ้น หลังจากผลงานในรายการที่จะใช้ชี้วัดความสามารถของเด็กว่าดีพอหรือไม่ในระดับอาเซียนหรือเอเชียอย่างศึกเทเบิลเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์อาเซียนเริ่มจะไม่ค่อยสู้ดีนักในช่วงก่อนหน้านี้ เป็นรองมือตบเยาวชนคู่แข่งตลอดกาลในอาเซียนอย่างสิงคโปร์แบบชัดเจน แต่พอมีโครงการดังกล่าวขึ้นมา ในช่วงปีหลังจึงเริ่มพอเบียดลูกเด้งวัยโจ๋จากแดนลอดช่องขึ้นมาได้บ้าง 

  อีกทั้งผู้เล่นชุดใหญ่ของทีมชาติไทยเองก็ดูท่าจะยังไม่ลงตัวในด้านของทีมชายเมื่อวัดจากผลงานโดยรวมต่างๆ พูดง่ายๆ ก็คือ เหมือนทรัพยากรนักกีฬาจะยังขาดแคลนอยู่ นั่นทำให้สมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยคงไม่สามารถนิ่งนอนใจได้กับเรื่องเหล่านี้ในระยะยาว

  ทั้งนี้ในแต่ละปี ทุกๆ วงการกีฬาก็มักจะมีดาวดวงใหม่ฉายแววแจ้งเกิดขึ้นมาประดับวงการอยู่เสมอ บ้างก็เป็นนักกีฬาที่เพิ่งจะเข้ามาสู่วงการการแข่งขันรายการต่างๆ ในประเทศได้ไม่นานแต่กลับทำผลงานในสนามอย่างน่าประทับใจจนถูกผู้ฝึกสอนจากสังกัดต่างๆ จับตามองทันที แต่บ้างก็เป็นนักกีฬาที่เริ่มเล่นมาได้นานแล้วแต่กลับเพิ่งจะฟอร์มพีคจนเป็นผู้เล่นที่สมาคมฯ สนใจอยากให้เข้ามาร่วมทัพก็มี

 ในวันนี้จึงขอนำ 6 ผู้เล่นดาวโรจน์ที่น่าจับตามองว่ามีโอกาสจะฉายแววเป็นเพชรเม็ดโต ขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยได้ในอนาคตมานำเสนอให้แก่ท่านผู้อ่านให้ได้รู้จัก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็มาจากการได้พูดคุยกับผู้สันทัดกรณีของประเทศที่เฝ้าจับตามองคอยดูนักกีฬาในส่วนของผู้เล่นเยาวชนในวงการปิงปองไทยเป็นพิเศษ และต้องขอย้ำก่อนว่า "นี่คือ 6 มือตบดาวรุ่งที่มีความน่าจะเป็นสุดๆ ว่าอนาคตสดใสจากการวิเคราะห์ในปี 2020นี้" 

  เพราะต้องยอมรับว่านักกีฬาเยาวชนทั่วทั้งโลกมีกราฟเส้นทางชีวิตไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเส้นทางเติบโตด้วยกลีบกุหลาบ บางคนที่แจ้งเกิดในวันนี้ ที่สุดแล้วในอนาคตพวกเขาก็อาจไม่ได้ไปถึงฝั่งฝัน ด้วยปัจจัยหลากหลายไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่น สมาธิ ความตั้งใจ สิ่งรบเร้าภายนอก สังคม การเรียน รวมทั้งอาการบาดเจ็บ 

 ดังนั้นเราจะมาดูกันว่า แค่ ณ เวลานี้ ใครบ้างที่เก่งกาจเกินเด็กคนอื่นๆ และควรคู่กับการที่จะเป็นวันเดอร์คิดของวงการปิงปองไทย เติบใหญ่ไปเป็นกำลังหลักของประเทศชาติได้หากพวกเขาเหล่านี้ยังคงรักษามาตรฐานของตนเองและพัฒนาฝีมือขึ้นไปได้เรื่อยๆ

  1."การ์ตูน" วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน

 ทุกคนที่อยู่ในวงการเทเบิลเทนนิสไทยคงยอมรับกันดีกับฝีมือของสาวน้อยคนนี้ที่น่าจะสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าในบรรดานักกีฬาเยาวชนหญิงอายุตั้งแต่ 18 ปีลงไป "การ์ตูน" คือเบอร์ 1 ของประเทศในเวลานี้ การ์ตูน วรรณวิสาข์ คือสาวน้อยชาวจังหวัดนครราชสีมาที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ในกีฬาชนิดนี้อย่างเต็มเปี่ยม เป็นที่รู้จักจากการเป็นตัวแทนของทีมจังหวัดขอนแก่นเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาเพื่อคัดเป็นนักกีฬารุ่นโฮปส์อายุไม่เกิน 12 ปีตัวแทนทีมชาติไทย ซึ่งฟอร์มของหนูน้อยการ์ตูนในวันนั้นสร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนทั้งสนาม รวมไปถึง 2 ผู้ฝึกสอนชื่อดังของประเทศอย่าง "โค้ชปริญ" ปริญญา นนท์สาเกตุ และ "โค้ชต้อม" วิโรจน์ จันผะกา ที่ปลุกปั้นนักกีฬาปิงปองให้มีชื่อเสียงมาแล้วมากมาย 

  ในเวลานั้นโค้ชทั้งคู่ได้เห็นฟอร์มของ การ์ตูน แล้วก็หันมามองหน้ากันพร้อมใจตกลงว่าอยากจะเข้าไปช่วยพัฒนาเด็กคนนี้ให้ไปได้ไกลในอนาคตอย่างมาก โดยโค้ชต้อม วิโรจน์ ถึงกับเอ่ยออกมาว่าภาพวันนั้นที่เห็นเด็กคนนี้ตีปิงปอง ราวกับเหมือนเห็น "แป๋ว" นันทนา คำวงศ์ ตำนานที่ยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติไทยชุดปัจจุบันในสมัยเด็กยังไงยังงั้น

  จากวันนั้น การ์ตูน วรรณวิสาข์ ก็ก้าวเข้าสู่เส้นทางสายเทเบิลเทนนิสอย่างเข้มข้นภายใต้สังกัดสโมสรกีฬาเซ็นทรัลและเป็นส่วนหนึ่งในทีมเยาวชนทีมชาติในไม่กี่อึดใจต่อมา ด้วยพรสวรรค์บวกกับสไตล์การตีที่ครบเครื่อง แข็งแรงเหมือนผู้ชาย โฟร์แฮนด์ดุดัน และความมุ่งมั่นตั้งใจที่แน่วแน่ไม่ว่อกแว่กเพราะเจ้าตัวก็ทำหน้าที่นำรายได้จากการแข่งขันส่งให้กับครอบครัวด้วย ทำให้ปัจจุบันที่แม้จะอายุได้เพียง 16 ปี แต่การ์ตูนกลับสามารถคว้าแชมป์หญิงเดี่ยวรายการระดับประเทศได้ทั้งรุ่นอายุ 18 ปี และ 21 ปี มาครองได้แล้วล่าสุด นั่นทำให้มีการคาดการณ์กันว่า วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน ในวัย 16 ปี เป็นนักกีฬาเยาวชนที่มีโอกาสปีนขึ้นไปติดชุดใหญ่ทีมชาติมากที่สุดในช่วงเวลาภายใน 1-2 ปีนี้เลยทีเดียว

 2. "ปิงปอง" ปัณฑิตา ภิญโญไพศาล

 อีกหนึ่งสาวเยาวชนที่ในเวลานี้คนในวงการปิงปองไทยคงไม่มีใครไม่รู้จัก ฟอร์มการเล่นและผลงานเบียดสูสีตีคู่กับ การ์ตูน วรรณวิสาข์ เพื่อนร่วมสังกัดเซ็นทรัลมาติดๆ แข็งแร็ง ใจสู้ หากถามว่าคู่นี้ต่างกันตรงไหนก็คงต้องบอกว่า ถ้าการ์ตูนตีได้ดุดัน ใช้โฟร์แฮนด์หนักเหมือนผู้ชาย สำหรับ ปิงปอง ก็คงมีความเก่งกาจในสไตล์ของผู้หญิงมากกว่า มีการใช้แบ็คแฮนด์สลับช่วย แต่ที่เห็นชัดได้เลยก็คือลูกมุ่งมั่นของปิงปองที่ใครได้ชมเกมในสนามของเธอจะต้องปรบมือให้ในความไม่ยอมแพ้และไม่ย่อท้อให้แก่คู่ต่อสู้ จากน้ำเสียงที่เธอคำรามใส่คู่แข่งอยู่บ่อยครั้งขัดกับหน้าตาอันน่ารักจิ้มลิ้มของเจ้าตัวทีเดียว

 อย่างไรก็ดีผู้สันทัดกรณีหลายฝ่ายยังมองว่า ปิงปอง ปัณฑิตา ยังมีจุดที่ยังต้องปรับในเรื่องของการควบคุมอารมณ์บางครั้ง ซึ่งถือเป็นปัญหาหากสาวน้อยจะก้าวขึ้นไปเป็นนักกีฬาอาชีพ แต่เหล่าสตาฟโค้ชของประเทศต่างก็พยายามให้ความช่วยเหลือลูกเด้งอนาคตไกลคนนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง รวมทั้งในอนาคตเจ้าตัวสามารถรักษามาตรฐานการเล่นได้ ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจแน่วแน่เช่นเดิมและแบ่งเวลาการเป็นนักกีฬากับการเรียนได้อย่างไม่มีปัญหา ปิงปอง ปัณฑิตา ภิญโญไพศาล ก็จะเป็นอีกคนที่ขึ้นไปเป็นกำลังหลักทีมชาติชุดใหญ่ได้แน่  

  3. "ปันปัน" ชิสา คชมิตร

 อาจจะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากนักสำหรับหนูน้อย "ปันปัน" ลูกเด้งวัยเพียง 10 ขวบคนนี้ แต่มีโค้ชในวงการหลายคนที่เผยว่าให้จับตามองเด็กคนนี้ไว้ให้ดี ด้วยสรีระ ความแข็งแรงยามลงสนามแข่งขัน ความใจสู้ บุคลิกการตีมือซ้าย โดยผู้ฝึกสอนเชื่อว่า "เด็กจะก้าวไปสู่ระดับนานาชาติได้นั้น วิธีการตีคือสิ่งสำคัญมาก" และดูเหมือนว่าหนูน้อยคนนี้ค่อนข้างจะมีของ 

  กับผลงานการคว้าแชมป์หญิงเดี่ยวรุ่นอายุ 10 ปีจากรายการเทเบิลเทนนิส ชลบุรี โอเพน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทำให้หลายฝ่ายเห็นการพัฒนาความสามารถของ ปันปัน ที่เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ที่อาจจะยังไม่ตื่นเต็มที่ด้วยอายุ และในปัจจุบันยังคงเป็นมืออันดับ 2 ประจำรุ่นภายใต้สังกัดชัยภูมิเทเบิลเทนนิสคลับ แต่เชื่อกันว่าหาก ปันปัน ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนานักกีฬาเยาวชนทีมชาติของสมาคมฯ มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปแซงทุกคนในรุ่นเดียวกันแน่ และเป็นตัวแทนนักกีฬาโฮปส์รุ่น 12 ปีทีมชาติไทยไปแข่งนานาชาติได้เลย เพียงแต่ว่าในปีนี้มีสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ระบาดเข้ามา ทำให้การแข่งขันโฮปส์จึงหยุดชะงักไป 

 ส่วนการจะมองถึงเป็นอนาคตทีมชาติไทยคงต้องดูกันอีกสักระยะ แต่เอาแค่นักกีฬาระดับเยาวชนทีมชาติ ถ้าหนูน้อยปันปันยังรักษามาตรฐานและพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ ก็สามารถขึ้นไปอยู่ในระดับของรุ่นพี่อย่างการ์ตูนและปิงปองในภายภาคหน้าได้แน่

 4. "มิค" ภูริพงษ์ แซ่ลี้

  มืออันดับ 1 รุ่น 18 ปีของประเทศไทยในปัจจุบัน เริ่มฉายแววเก่งขึ้นมาในช่วง 2 ปีหลังมานี้ ก้าวขึ้นมาติดเป็นหนึ่งในแกนหลักของทีมเยาวชนทีมชาติอย่างต่อเนื่อง โดย มิค เป็นมือตบที่มีความมุ่งมั่นสูงมาก เป็นนักกีฬาที่เรียกว่า "ทางบอลดี" เป็นคนที่รู้ว่าในจังหวะนี้ควรตีไปทางไหนถึงจะได้เปรียบ แต่ตีไปแล้วจะได้แต้มหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดดเด่นชัดเจนในตอนนี้สำหรับรุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ทั้งที่ตนเองก็เพิ่งจะ 16 เท่านั้น ประสบการณ์ระดับนานาชาติก็ได้ลุ้นเหรียญตลอดทุกครั้งที่ได้ออกไปแข่ง มีอนาคตที่ดีและยังพัฒนาได้อีกสำหรับคนนี้ หากพูดถึงนักกีฬาเยาวชนชายที่มีความน่าจะเป็นจะขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ นักกีฬาในไทยที่มีอยู่ตอนนี้ มิค ภูริพงษ์ ก็น่าจะเข้าข่ายมากที่สุดแล้ว ซึ่งหากเจ้าตัวได้เข้าร่วมแคมป์ของเยาวชนทีมชาติก็น่าจะสามารถพัฒนาวิธีคิดและวิธีการตีได้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกด้วย 

 5. "เนม" ณภัทร ธรรมาธิคม

 แฝดคนพี่ของพี่น้อง "เนม-นาย" จากตระกูลธรรมาธิคม โดยหนุ่มเนมเป็นนักกีฬาที่มีพรสวรรค์ในกีฬาปิงปองมากทีเดียว คนทั่วไปอาจจะได้เห็นฝีมือของเจ้าตัวน้อยเนื่องจากช่วงหลังทางครอบครัวได้ส่งให้คู่แฝดเนม-นายไปฝึกซ้อมอยู่ที่แดนไกลอย่างประเทศเยอรมัน แต่ผลงานการแข่งขันในระดับนานาชาติของเจ้าตัวค่อนข้างชัดเจน ที่เปรี้ยงที่สุดก็น่าจะเป็นการคว้าแชมป์ชายเดี่ยวรุ่น 15 ปีจากรายการใหญ่อย่าง ไอทีทีเอฟ เทเบิลเทนนิส จูเนียร์ แอนด์ คาเดท เซอร์เบียน โอเพน 2019 เมื่อปลายปีที่แล้ว ถือว่าไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับการที่นักกีฬาลูกเด้งไทยจะไปคว้าแชมป์รายการของสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติหรือไอทีทีเอฟแบบนั้น  

 ทั้งนี้หากสถานการณ์ของโลกกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หนุ่มเนมจะกลับไปฝึกซ้อมที่ประเทศเยอรมันและเตรียมลงทำการแข่งขันลีกเทเบิลเทนนิสอาชีพอย่างเป็นทางการที่ประเทศออสเตรียในดิวิชัน 2 ซึ่งดูจากการเติบโตทีละก้าวที่แข็งแรงของพ่อหนุ่มคนนี้ เป็นไปได้สูงทีเดียวที่เจ้าตัวจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะมาช่วยให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ต่อสู้กับนานาชาติในอนาคตอันใกล้

     6. "ไนน์" นนท์ปวิธ คงศิริธนวัชร์ 

    เหล่าโค้ชลูกเด้งในประเทศไทยชอบกันมากสำหรับหนุ่มน้อยคนนี้ ด้วยวิธีการตีที่มีคุณภาพและความมุ่งมั่นที่ชัดเจน การเล่นเกมบุกนั้นทำได้ดีเยี่ยมเกินเด็ก 12 ขวบ แถมเด็กคนนี้มีพรสวรรค์สูงส่งตั้งแต่เยาว์วัย เริ่มต้นกับกีฬาชนิดนี้ด้วยการเห็นการแข่งขันจากยูทูปและชื่นชอบอยากให้คุณพ่อคุณแม่ซื้ออุปกรณ์ให้ทั้งๆ ที่คุณพ่อแนะนำพาไปเล่นกีฬาต่างๆ มากมายก่อนหน้านี้ทั้งเทนนิส ยูโด เทควันโด หรือว่ายน้ำ แต่เจ้าตัวเลือกเล่นกีฬาชนิดนี้และฝึกซ้อมจากการดูยูทูปเพียงคนเดียวจนสามารถทำผลงานคว้าแชมป์รุ่น 8 ปีของประเทศไทยได้อย่างน่าอัศจรรย์ 

    ก่อนที่จะเริ่มมีโค้ชในภายหลังที่ทางสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูไปเจอตัวที่จังหวัดขอนแก่น โดยเมื่อทางผู้ฝึกสอนเห็นได้เพียงแว๊บเดียวก็รู้ว่าเจ้าหนูคนนี้มีของ ในวันนั้นที่ทีมบ้านปูไปเจอตัว ไนน์ ในวัย 7 ขวบกลับกล้าที่จะตีตั้งลูกให้กับ "โค้ชต้อม" อาสาฬห์ อมรรัตนสุชาติ ผู้ฝึกสอนระดับทีมชาติไทยตบใส่ นอกจากนี้หนุ่มน้อยไนน์ยังเป็นมือตบที่มีสไตล์การตีแบบใจสู้สุดขีด สีหน้าและแววตาพร้อมด้วยอารมณ์ร่วมของเขาทำให้ช่างภาพที่มักจะเข้ามาในสนามแข่งขันจะไม่พลาดที่จะเก็บรูปของเจ้าหนูคนนี้ เรียกได้ว่าเป็นนักกีฬาที่ช่างภาพให้คำนิยามว่า "เป็นคนที่ถ่ายได้มันมาก" 

    ปัจจุบัน ไนน์ นนท์ปวิธ เป็นมือวางอันดับ 1 ของนักกีฬาโฮปส์รุ่นอายุ 12 ปีของประเทศไทยและหลายฝ่ายมองว่าเจ้าตัวมีแนวโน้มสูงมากที่จะก้าวขึ้นไปเป็นตัวตายตัวแทนรุ่นใหญ่ทีมชาติได้ในอนาคต ทว่าด้วย ไนน์ ยังมีอายุที่น้อยทำให้ยังมีเรื่องที่น่ากังวลอยู่บ้าง อาทิ หนุ่มน้อยเป็นคนที่มีความสามารถเก่งรอบด้าน นอกจากฝีมือเยี่ยมในด้านกีฬาแล้วยังเก่งทั้งเรื่องของการเรียน ภาษาและดนตรีอย่างเปียโนอีกด้วย ดังนั้นระหว่างทางก่อนที่จะถึงระดับทีมชาติ ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญว่าสุดท้ายแล้วกว่าจะถึงวันนั้น หนุ่มน้อยจะยังคงเลือกเส้นทางสายเทเบิลเทนนิสเป็นตัวเลือกแรกอยู่หรือไม่

    นอกจากนี้ยังมีประเด็นของการควบคุมอารมณ์ที่หากเจ้าตัวผิดหวังในบางสิ่งเช่นความพ่ายแพ้หรือเล่นไม่ได้ดั่งใจในการแข่งขัน อารมณ์ร่วมในตอนนั้นจะหายทันที ซึ่งจะมีผลต่อการลงสนามอย่างมาก แต่แน่นอนว่าด้วยความเป็นเด็กส่วนใหญ่ปัญหานี้ก็จะเป็นกันเยอะ แต่กับคนที่มีฝีมืออย่าง ไนน์ แล้ว หากแก้ไขไม่ทันอนาคตที่สดใสในกีฬาด้านนี้อาจจะไปไม่ถึงฝั่งฝันก็ได้ ซึ่งในจุดนี้โค้ชผู้ฝึกสอนของเจ้าตัวก็กำลังแก้ไขและพัฒนาหนูน้อยให้เป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นอย่างเต็มที่  

    นี่คือนักกีฬาเทเบิลเทนนิสเยาวชนทั้ง 6 คนที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2020 นี้จากการคาดการณ์ของผู้สันทัดกรณีที่มีประสบการณ์สูงในวงการนี้โดยตรงของประเทศไทย หลายฝ่ายเชื่อว่าเด็กทั้ง 6 คนนี้มีโอกาสจะก้าวขึ้นไปทดแทนรุ่นพี่ทีมชาติไทยในอนาคตมากที่สุดในภายภาคหน้ามากกว่านักกีฬาเยาวชนคนอื่นๆ ทั้งหมดในประเทศตอนนี้ 

    ทั้งนี้สิ่งที่สกู๊ปนี้ได้เขียนไว้มันจะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่นั้นจำต้องประกอบด้วย 2 ปัจจัยใหญ่หลักๆ เลย นั่นก็คือ 1.ความมุ่งมั่นของเด็กๆ ทั้ง 6 จะต้องยังแน่วแน่เช่นเดิม จะต้องยังคงรักษามาตรฐานของตนเองไว้ได้อย่างดีเยี่ยมพร้อมกับพัฒนาขีดความสามารถขึ้นไปได้เรื่อยๆ อย่างไม่ยอมแพ้ และ2.โครงการการพัฒนานักกีฬาเยาวชนทีมชาติของสมาคมฯ จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป

    โปรดจำชื่อและหน้าตาของเด็กทั้ง 6 คนนี้ไว้ให้ดีนะจ๊ะ...แล้วอีกสักประมาณ 2 ปีให้หลังจากนี้มาติดตามกันว่า ทั้ง 6 คนจะยังคงเป็นวันเดอร์คิดที่พร้อมก้าวขึ้นไปเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยชุดใหญ่อยู่หรือเปล่า.......  
                                           
เลิฟ...เลิฟ

ประวัตินักกีฬา

1. วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน
ชื่อเล่น : การ์ตูน อายุ : 16 ปี
เกิด : 2 มิ.ย. 2547
หนัก : 60 กก. สูง : 165 ซม.
ภูมิลำเนา : จ.นครราชสีมา
การศึกษา : ม.3 ร.ร.เทศบาล 4 เจริญอุปถัมภ์ปัญญาธร จ.ชลบุรี
สังกัด : สโมสรกีฬาเซ็นทรัล
ผลงาน : รองแชมป์โลกประเภททีมหญิง (ร่วมทีมเอเชีย) รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ เทเบิลเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์โลก 2018 ที่เมืองโตโตริ ประเทศญี่ปุ่น, เหรียญทองแดงประเภททีมหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ หัว ซิน คัพ 2019 ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน, เหรียญทองประเภทหญิงคู่และเหรียญเงินประเภททีมหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ เทเบิลเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์อาเซียน 2019 ที่แฟชันไอส์แลนด์ กรุงเทพฯ

2. ปัณฑิตา ภิญโญไพศาล
ชื่อเล่น : ปิงปอง อายุ : 16 ปี
เกิด : 22 ส.ค. 2547
หนัก : 55 กก. สูง : 160 ซม.
ภูมิลำเนา : กรุงเทพฯ
การศึกษา : ม.5 สายศิลป์-ภาษาจีน ร.ร.สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์ทรวิโรฒ ประสานมิตร ฝ่ายมัธยม
สังกัด : สโมสรกีฬาเซ็นทรัล
ผลงาน : เหรียญทองแดงประเภททีมผสม รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ 2019 ซิลค์ โร้ด คัพ ไชน่า-เอเชียน เทเบิลเทนนิส ทัวร์นาเมนต์ ที่เมืองจิงซี่ ประเทศจีน, เหรียญทองประเภทหญิงคู่และเหรียญเงินประเภททีมหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ เทเบิลเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์อาเซียน 2019 ที่แฟชันไอส์แลนด์ กรุงเทพฯ

3. ชิสา คชมิตร
ชื่อเล่น : ปันปัน อายุ : 10 ปี
เกิด : 18 มิ.ย. 2553
หนัก : 32 กก. สูง : 151 ซม.
ภูมิลำเนา : จ.ชัยภูมิ
การศึกษา : ป.4 ร.ร.อนุบาลชัยภูมิ
สังกัด : ชัยภูมิเทเบิลเทนนิสคลับ
ผลงาน : เหรียญทองประเภทหญิงเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี รายการ เทเบิลเทนนิส ชลบุรี โอเพน 2020, เหรียญทองประเภทหญิงเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี รายการ แบงค็อก เทเบิลเทนนิส 2018, เหรียญเงินประเภทหญิงเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 10 รายการ เทเบิลเทนนิสชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย 2019 

4. ภูริพงษ์ แซ่ลี้
ชื่อเล่น : มิค อายุ : 16 ปี
เกิด : 29 มิ.ย. 2547
หนัก : 77 กก. สูง : 181 ซม.
ภูมิลำเนา : กรุงเทพฯ
การศึกษา : ม.4 สายศิลป์-สังคม ร.ร.ปัญญาวรคุณ
สังกัด : มหาวิทยาลัยธนบุรี
ผลงาน : เหรียญเงินประเภทชายคู่และเหรียญทองแดงประเภทชายเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ เทเบิลเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์อาเซียน 2018 ที่เมืองนากา ประเทศฟิลิปปินส์, เหรียญทองแดงประเภททีมชาย รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ เทเบิลเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์อาเซียน 2019 ที่แฟชันไอส์แลนด์ กรุงเทพฯ, เหรียญทองประเภทชายเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ เทเบิลเทนนิสชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย 2018 

5. ณภัทร ธรรมาธิคม
ชื่อเล่น : เนม อายุ : 16 ปี
เกิด : 1 ธ.ค. 2547
หนัก : 58 กก. สูง : 175 ซม.
ภูมิลำเนา : กรุงเทพฯ
การศึกษา : ม.4 สายศิลป์-คำนวณ ร.ร.สารสิทธิ์พิทยาลัย ราชบุรี
สังกัด : วีแบค
ผลงาน : แชมป์ชายเดี่ยวและรองแชมป์ทีมชาย รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ ไอทีทีเอฟ เทเบิลเทนนิส จูเนียร์ แอนด์ คาเดท เซอร์เบียน โอเพน 2019 ที่เมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย, เหรียญทองชายเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ เทเบิลเทนนิส บัตเตอร์ฟลาย โอเพน 2019 กรุงเทพฯ

6. นนท์ปวิธ คงศิริธนวัชร์ 
ชื่อเล่น : ไนน์ อายุ : 12 ปี
เกิด : 7 พ.ค. 2551
หนัก : 36 กก. สูง : 142 ซม.
ภูมิลำเนา : จ.ขอนแก่น
การศึกษา : ม.1 ร.ร.ขอนแก่นวิทยายน English Program UFA23
สังกัด : สโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู
ผลงาน : เหรียญทองประเภทชายเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี รายการ เทเบิลเทนนิสชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย 2016, เหรียญทองประเภทชายเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี 2 สมัยติดต่อกัน รายการ เทเบิลเทนนิส ปริ๊นเซส คัพ 2018 และ 2019, เหรียญทองประเภทชายเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี รายการ เทเบิลเทนนิส ปริ๊น